รถแม็คโคร หรือที่นิยมเรียกกันว่า “รถแบคโฮ” (Backhoe) หรือ “รถขุดตีนตะขาบ” (Excavator) คือเครื่องจักรกลหนักที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในงานก่อสร้าง งานอุตสาหกรรม และงานเกษตรกรรมหลากหลายประเภท ด้วยความสามารถในการขุด ตัก เคลื่อนย้ายวัสดุ และปรับภูมิทัศน์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รถแม็คโครจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงการต่างๆ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่

การเลือกรถแม็คโครให้เหมาะสมกับประเภทของงานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ประหยัดเวลา และลดต้นทุน เรามาทำความรู้จักกับขนาดของรถแม็คโครแต่ละประเภท และความเหมาะสมกับงานต่างๆ กันครับ
ประเภทหลักของรถแม็คโคร (แบ่งตามขนาดและน้ำหนัก)
โดยทั่วไป เราสามารถแบ่งรถแม็คโครออกเป็นขนาดหลักๆ ได้ดังนี้:
1. รถแม็คโครขนาดเล็ก (Mini Excavator / Compact Excavator)
- น้ำหนัก: โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 1 – 6 ตัน
- คุณสมบัติเด่น: มีขนาดกะทัดรัด คล่องตัวสูง สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบๆ หรือจำกัดได้ดี ไม่สร้างความเสียหายต่อพื้นผิวมากนัก
- เหมาะสำหรับงาน:
- งานภายในอาคาร: การปรับปรุง หรือรื้อถอนโครงสร้างภายใน
- งานภูมิทัศน์และสวน: ขุดบ่อน้ำเล็กๆ, ปรับพื้นที่สวน, เตรียมแปลงปลูกต้นไม้
- งานเกษตรกรรมขนาดเล็ก: ขุดร่องน้ำ, เตรียมพื้นที่เพาะปลูก
- งานวางท่อสายเคเบิล: ขุดร่องขนาดเล็กสำหรับวางท่อประปา สายไฟฟ้า หรือสายสื่อสาร
- งานรื้อถอนขนาดเล็ก: รื้อถอนกำแพงเล็กๆ หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ใหญ่มากนัก
- งาน DIY หรือโปรเจกต์ส่วนตัว: สำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องจักรช่วยผ่อนแรงในงานซ่อมแซมหรือก่อสร้างภายในบ้าน
2. รถแม็คโครขนาดกลาง (Midi Excavator / Medium Excavator)
- น้ำหนัก: โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 6 – 20 ตัน
- คุณสมบัติเด่น: เป็นขนาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความสมดุลระหว่างกำลัง ขนาด และความคล่องตัว สามารถใช้งานได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
- เหมาะสำหรับงาน:
- งานก่อสร้างทั่วไป: ขุดฐานรากอาคาร, ขุดบ่อน้ำขนาดกลาง, เตรียมพื้นที่สำหรับโครงสร้างต่างๆ
- งานปรับระดับพื้นที่: เกลี่ยดิน, ปรับหน้าดินสำหรับงานก่อสร้างถนน หรือลานจอดรถ
- งานวางระบบสาธารณูปโภค: ขุดวางท่อขนาดใหญ่ขึ้น, วางระบบระบายน้ำ
- งานทำเหมืองขนาดเล็ก: ขุดตักวัสดุในบ่อดินหรือเหมืองแร่ขนาดไม่ใหญ่มาก
- งานรื้อถอนขนาดกลาง: รื้อถอนอาคารขนาดเล็กถึงกลาง
3. รถแม็คโครขนาดใหญ่ (Large Excavator / Heavy Excavator)
- น้ำหนัก: โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 20 – 100 ตันขึ้นไป (บางรุ่นอาจมีน้ำหนักมากกว่า 200 ตัน)
- คุณสมบัติเด่น: มีกำลังมหาศาล แข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับงานหนักและโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องการความคล่องตัวมากนัก แต่เน้นที่ประสิทธิภาพในการขุดตักปริมาณมาก
- เหมาะสำหรับงาน:
- งานเหมืองแร่ขนาดใหญ่: ขุดตักแร่, ถ่านหิน, หรือหินปูนปริมาณมหาศาล
- งานก่อสร้างขนาดใหญ่: สร้างเขื่อน, ท่าเรือ, ถนนหลวง, โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
- งานขุดดินจำนวนมาก: โครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่, การขุดบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่
- งานรื้อถอนโครงสร้างขนาดใหญ่: รื้อถอนอาคารสูง, สะพาน, หรือโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกขนาดรถแม็คโคร
นอกเหนือจากขนาดและประเภทงานแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกรถแม็คโครอีกด้วย เช่น:
- พื้นที่ทำงาน: มีพื้นที่จำกัดหรือไม่? ต้องการความคล่องตัวในการเคลื่อนที่แค่ไหน?
- ปริมาณงาน: ต้องการขุดตักวัสดุปริมาณมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน?
- ประเภทของวัสดุ: ดินอ่อน ดินแข็ง หิน หรือวัสดุรื้อถอน?
- งบประมาณ: ค่าเช่าหรือค่าซื้อรถแม็คโครแต่ละขนาดแตกต่างกัน
- อุปกรณ์เสริม: รถแม็คโครสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย เช่น บุ้งกี๋ขนาดต่างๆ, หัวเจาะ, คีมคีบ, หัวกระแทก (Breaker) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานให้ครอบคลุมประเภทงานที่หลากหลายยิ่งขึ้น
รถแม็คโครรับจ้าง / รถแบคโฮให้เช่า: ทางเลือกที่ตอบโจทย์งานก่อสร้างและพัฒนาพื้นที่

ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างขนาดเล็กไปจนถึงงานโครงการขนาดใหญ่ งานปรับภูมิทัศน์ หรืองานเกษตรกรรม การเข้าถึงเครื่องจักรกลหนักอย่างรถแม็คโครหรือรถแบคโฮ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้งานดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง แต่การลงทุนซื้อรถแม็คโครเองนั้นอาจไม่คุ้มค่าสำหรับหลายๆ คน หรือหลายๆ โครงการ ดังนั้น บริการรถแม็คโครรับจ้าง หรือรถแบคโฮให้เช่า จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยความสะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย และตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย
เรามาดูกันว่าการเช่าหรือจ้างรถแม็คโครนั้นมีรูปแบบใดบ้าง ราคาเป็นอย่างไร และควรวางแผนงบประมาณอย่างไรให้เหมาะสม
รูปแบบการรับจ้าง / ให้เช่ารถแม็คโคร
การบริการรถแม็คโครรับจ้างหรือให้เช่า สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ:
1. การเช่าแบบรายวัน / รายชั่วโมง (พร้อมคนขับ)
- ลักษณะ: เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผู้เช่าจะจ่ายค่าบริการเป็นรายวัน หรือบางผู้ให้บริการอาจคิดเป็นรายชั่วโมง โดยมีคนขับรถแม็คโครที่มีความชำนาญมาให้บริการพร้อมกับรถ
- เหมาะสำหรับ:
- งานที่มีระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่วัน เช่น งานขุดบ่อเล็กๆ, งานเคลียร์พื้นที่บางส่วน, งานรื้อถอนขนาดไม่ใหญ่มาก
- ผู้ที่ไม่มีคนขับรถแม็คโคร
- งานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ต้องผูกมัดระยะยาว
- ข้อดี: สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษาหรือการหาคนขับ ลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว
- ข้อจำกัด: อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าหากเช่านานๆ
2. การเช่าแบบรายเดือน (อาจมีหรือไม่มีคนขับ)
- ลักษณะ: ผู้เช่าจะจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน เหมาะสำหรับโครงการที่มีระยะเวลายาวนาน หากเป็นการเช่าพร้อมคนขับ ค่าใช้จ่ายจะครอบคลุมเงินเดือนคนขับด้วย แต่หากเช่าเฉพาะรถ ผู้เช่าจะต้องจัดหาคนขับเอง
- เหมาะสำหรับ:
- โครงการก่อสร้างขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีระยะเวลาดำเนินงานนานหลายเดือน
- บริษัทรับเหมาที่มีทีมงานคนขับรถแม็คโครอยู่แล้ว
- ผู้ที่ต้องการใช้งานรถแม็คโครอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
- ข้อดี: ค่าเช่าเฉลี่ยต่อวันจะถูกกว่าการเช่ารายวันอย่างมีนัยสำคัญ ควบคุมงบประมาณได้ง่ายขึ้นสำหรับโครงการระยะยาว
- ข้อจำกัด: ต้องดูแลเรื่องการบำรุงรักษาเบื้องต้น (หากเช่าเฉพาะรถ), หากงานเสร็จเร็วกว่ากำหนด ก็ยังต้องจ่ายค่าเช่าเต็มเดือน
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาค่าบริการ
ราคาค่าบริการรถแม็คโครรับจ้างหรือให้เช่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ ดังนี้:
- ขนาดของรถแม็คโคร:
- รถแม็คโครขนาดเล็ก (Mini Excavator 1-6 ตัน): ราคาจะถูกที่สุด เหมาะกับงานเบาๆ หรือพื้นที่จำกัด
- รถแม็คโครขนาดกลาง (Midi Excavator 6-20 ตัน): ราคากลางๆ เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับงานทั่วไป
- รถแม็คโครขนาดใหญ่ (Large Excavator 20 ตันขึ้นไป): ราคาสูงที่สุด เหมาะกับงานหนัก หรืองานโครงการขนาดใหญ่
- ระยะเวลาการเช่า:
- รายวัน/รายชั่วโมง: ราคาต่อวันจะสูงกว่า
- รายเดือน: ราคาเฉลี่ยต่อวันจะถูกกว่าอย่างชัดเจน
- รวมคนขับหรือไม่:
- รวมคนขับ: ราคาสูงกว่า แต่สะดวกสบาย ไม่ต้องหาคนขับเอง
- ไม่รวมคนขับ: ราคาถูกกว่า แต่ต้องมีคนขับที่มีประสบการณ์เอง
- ระยะทางขนส่งรถ: หากสถานที่ทำงานอยู่ไกลจากจุดจอดรถของผู้ให้บริการ ก็อาจมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งรถเพิ่มเติม
- ประเภทของงานและอุปกรณ์เสริม: งานบางประเภทอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมพิเศษ เช่น หัวเจาะ (Breaker), คีมคีบ, บุ้งกี๋ขนาดพิเศษ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การประมาณราคาและงบประมาณ (ตัวอย่างโดยประมาณ)
โปรดทราบ: ราคาเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น ราคาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ พื้นที่ และสภาพตลาดในขณะนั้น ควรสอบถามราคาจากผู้ให้บริการหลายรายเพื่อเปรียบเทียบ
- รถแม็คโครขนาดเล็ก (Mini Excavator):
- รายวัน (พร้อมคนขับ): ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท/วัน (ขึ้นอยู่กับขนาดและพื้นที่)
- รายเดือน (พร้อมคนขับ): ประมาณ 60,000 – 100,000 บาท/เดือน
- รถแม็คโครขนาดกลาง (Midi Excavator):
- รายวัน (พร้อมคนขับ): ประมาณ 5,000 – 8,000 บาท/วัน
- รายเดือน (พร้อมคนขับ): ประมาณ 100,000 – 180,000 บาท/เดือน
- รถแม็คโครขนาดใหญ่ (Large Excavator):
- รายวัน (พร้อมคนขับ): ประมาณ 8,000 – 15,000 บาท/วัน (หรือสูงกว่าสำหรับรุ่นใหญ่พิเศษ)
- รายเดือน (พร้อมคนขับ): ประมาณ 180,000 – 300,000 บาท/เดือน (หรือสูงกว่า)
ค่าขนส่ง: อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 1,000 – 3,000 บาท (หรือมากกว่า) ขึ้นอยู่กับระยะทางและความยากง่ายของการเดินทาง
เคล็ดลับในการเลือกผู้ให้บริการและวางแผนงบประมาณ
- ประเมินประเภทและปริมาณงาน: พิจารณาว่างานของคุณเล็ก กลาง หรือใหญ่ ใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อเลือกขนาดรถและรูปแบบการเช่าที่เหมาะสม
- ขอใบเสนอราคาจากหลายราย: เปรียบเทียบราคา บริการ และเงื่อนไขจากผู้ให้บริการอย่างน้อย 2-3 แห่ง
- สอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน:
- ราคารวมค่าอะไรบ้าง? (ค่าน้ำมัน, ค่าคนขับ, ค่าบำรุงรักษา)
- มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงหรือไม่? (ค่าขนส่ง, OT คนขับ)
- กรณีงานล่วงเวลา (OT) คิดอย่างไร?
- นโยบายการซ่อมบำรุงหากรถมีปัญหา
- ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ: มีประสบการณ์หรือไม่? มีรีวิวที่ดีหรือไม่?
- ทำสัญญาเช่า/จ้างที่เป็นลายลักษณ์อักษร: เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ระบุรายละเอียดงาน, ระยะเวลา, ราคา, และเงื่อนไขต่างๆ ให้ชัดเจน
การใช้บริการรถแม็คโครรับจ้างหรือรถแบคโฮให้เช่า เป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่า ช่วยให้งานของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ หากวางแผนและเลือกผู้ให้บริการอย่างรอบคอบ ก็จะช่วยควบคุมงบประมาณและทำให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้ครับ
บทความโดย:itomove